เล่น RoV ยังไงให้ชนะ (แบบย่อ)

*บอกไว้ก่อนนะว่านี่ไม่ใช่บทความจากโปรเพลเยอร์ หากแต่เป็นเพียงพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งที่ชอบในการเล่นเกม แล้วมันก็แพ้อยู่ตลอด จนต้องหาตัวช่วย!

              เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ดูการแข่งขันกีฬา esports หรือแข่งเกมนี่แหละ เจ้าเกม RoV หรือที่ในต่างประเทศเขาใช้ชื่อกันว่า AoV ที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และอีกหลาย ๆ ทีมจากไทยได้เข้าร่วม ในนัดชิงชนะเลิศที่ทีม “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีสปอร์ต” ได้เข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมจากใต้หวันที่ชื่อว่า Flash Wolves โอ้โห… เขาเล่นกันถึงเกมสุดท้ายในระบบ Best of 7 หรือ 4 ใน7 แบบที่คนไทยเราเข้าใจกันนี่แหละ ในสายตาคนที่เล่นเกมแบบผ่าน ๆ ไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ ครั้งนี้มันทำให้เรามี Passion ในการเล่นเกมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใจขึ้น!!!

               แต่ถึงบุรีรัมย์จะไม่ได้แชมป์ก็ไม่เป็นไร เรากลับมาที่ตัวเกม RoV กันดีกว่า เพราะหลังจากที่ได้ดูมันก็ทำให้เราเริ่มกลับมามองตัวเองแล้ว เพราะเราอยากเล่นเก่งขึ้น ก็เลยต้องมานั่งทำความเข้าใจระบบเกมใหม่ ว่าเกมมันเล่นยังไง มีเนื้อหายังไงบ้าง มีอะไรเป็นส่วนเกี่ยวข้องในการจะทำให้เราเก่งได้บ้าง เราก็เลยสรุปออกมาได้ว่าเราต้องรู้พื้นฐานของเกมทั้งหมดก่อน  แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ความเข้าใจในเกมตอนเล่น จะทำให้เราชนะ!!!

               เกม RoV เป็นเกมที่เล่นได้ในโทรศัพท์มือถือ เป็นเกมแนว MOBA หรือ Multiplayer Online Battle Arena หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเป็น Action Real-Time Strategy (ARTS) ก็ได้ แนวทางของเกมก็คือผู้เล่นนั้นจะแบ่งกันเป็นทีม คอยป้องกันไม่ให้สิ่งก่อสร้าง หรือบ้านของเราถูกทำลาย  และคนเล่นอย่างเราจะได้รับบทเป็น “ฮีโร่” ซึ่งจะแบ่งหน้าที่ออกไปแล้วแต่แผนของแต่ละทีม ซึ่งฮีโร่นั้นจะถูกแบ่งเป็น 6 ตำแหน่งหลัก ๆ และมีให้เลือกมากกว่า 100 ตัว

ตำแหน่งของฮีโร่ในเกม

• แครี่ (CARRY)

ตัวละครประเภทนี้จะมีพลังโจมตีสูงมาก แต่มีพลังชีวิตและพลังป้องกันน้อย ในแต่ละทีม(ควรจะ)มีไว้อย่างน้อย 1 ตัว เพื่อแบกรับหน้าที่ในการสังหารฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม รวมถึงทำลายสิ่งก่อสร้าง

• แทงค์ (TANK)

ตัวละครจะมีพลังโจมตีน้อย แต่โดดเด่นในด้านของพลังชีวิตและพลังป้องกันที่สูง คอยสร้างจังหวะให้เพื่อน ๆ ได้เข้าโจมตีฝ่ายตรงข้าม รวมถึงยืนเป็นแนวหน้ารับดาเมจจากฝั่งตรงข้าม

• ไฟต์เตอร์ (FIGHTER)

ตัวละครจะมีสมดุลระหว่างพลังโจมตีและพลังป้องกันรวมถึงพลังชีวิต ซึ่งมีหน้าที่หลัก ๆ คือการเติมเต็มตำแหน่งในทีม และสร้างจังหวะในการเข้าต่อสู้

• เมจ (MAGE)

ตัวละครจะมีพลังโจมตีสูงเหมือนฮีโร่ประเภทแครี่ และส่วนมากจะสามารถโจมตีเป็นหมู่ด้วย แต่จะมีพลังชีวิตต่ำมาก และมักจะตกเป็นเป้าหมายเสมอ

• แอสซาซิน (ASSASIN)

ตัวละครจะมีพลังโจมตีสูง (แต่ในรูปแบบระยะเวลาสั้น ๆ) หรือเรียกว่า Burst และเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว เพื่อลอบสังหารศัตรูในเวลาอันสั้น มักจะเป็นฮีโร่ประเภทที่ต้องใช้เวลาเก็บเลเวลและเงินในป่าเป็นส่วนใหญ่

• ซัพพอร์ต (SUPPORT)

เป็นตัวละครที่มีพลังโจมตีต่ำมาก แต่เป็นตำแหน่งที่ขาดไม่ได้ เพราะมักจะมีสกิลเพื่อช่วยเหลือเพื่อน ๆ ในการต่อสู้ เช่นสร้างโล่ป้องกัน เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ หรือ ชุบชีวิต

ระบบอื่น ๆ ในเกม

ต่อมาสิ่งที่จะทำให้เรา “ได้เปรียบ” ฝ่ายตรงข้าม ก็คือระบบ “รูน” และ “พลังแฝง” ซึ่งรายละเอียดมันเยอะมาก ๆ ข้ามไปก่อนแล้วกัน ถ้าอยากรู้ลึก ๆ ก็ลองเข้าไปอ่านในเกมดูนะ เอาง่าย ๆ ก็คือมันช่วยเพิ่ม พลังโจมตี พลังป้องกัน พลังชีวิต ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนจะซื้อและเลือกใช้ได้ไม่เหมือนกัน รวมถึงสกิลชาเลนเจอร์ ซึ่งจะเพิ่มทักษะให้ตัวละครในแต่ละเกมได้ ต่าง ๆ กันไป แล้วแต่ฮีโร่แต่ละสาย แต่ละตำแหน่ง

ยกตัวอย่างเช่น Flicker ที่เป็นที่นิยมใช้กัน ซึ่งจะทำให้ตัวละครของเรานั้นสามารถวาร์ประยะสั้น ๆ ได้ หรือสกิล Sprint ที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 70% แบบชั่วคราว หรือ Punish ที่จะสร้างพลังโจมตีใส่ศัตรูได้ (เป็นสกิลจำเป็นสำหรับฮีโร่ที่ต้องเข้าป่า)

               การเลือกซื้อไอเท็มระหว่างเกม แน่นอนว่าอันนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะในเกมได้อย่างดีเลย เพราะไอเท็มแต่ละอย่างก็จะมีความสามารถแตกต่างกันออกไป  ฮีโร่แต่ละตำแหน่งก็ใช้ไอเท็มไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ตำแหน่งเดียวกัน ก็ต้องการไอเท็มต่างชิ้นกัน เพื่อเสริมทักษะและสกิลของแต่ละฮีโร่ที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้ก็คงอยู่ที่ทักษะในการเล่น การฝึกฝนจนชำนาญ การศึกษาสกิลของแต่ละคร ว่าสกิลอะไรทำอะไรได้บ้าง ถ้าเราสามารถรู้ได้ทั้งหมด เราก็จะสามารถคำนวนออกมาได้อย่างง่าย ๆ ว่าจังหวะไหนควรจะเข้าต่อสู้ หรือจังหวะไหนควรถอยห่างศัตรู จังหวะไหนควรเก็บเลเวลก่อน จังหวะไหนควรหาเงินอย่างไร หลังจากนี้ต้องพึ่งพาการฝึกฝน และศึกษาข้อผิดพลาดของตัวเอง

              สรุปเลยนะ ถ้าอยากชนะ ก็ไปดูพวก Pro Player เขาเล่นกัน แล้วศึกษาดูว่าเขาใช้ไอเท็มอะไร รูนอะไร พลังแฝงอะไร เข้าสู้จังหวะไหน เก็บเลเวลจังหวะไหน มันช่วยได้จริง ๆ นะ แล้วค่อยกลับมาฝึกฝนด้วยตัวเองต่อ ซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม ไม่งั้นอยู่แรงค์ง่อย ๆ ต่อไป!!!!!