3 ช่องทางโฆษณาออนไลน์ช่วยเพิ่มยอดขาย

ปัจจุบันช่องทางการโฆษณาผู้คนได้หันมารับข่าวสารโฆษณาและสื่อต่าง ๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นกว่า 4,540 ล้านคนหรือคิดเป็น 59% ของประชากรทั้งหมดของโลก และมี 3,800 ล้านบัญชี Social Media หรือคิดเป็น 49% ของประชากรทั้งหมด และมีคนใช้ Internet มากขึ้น 7% ในปี 2020 และ Social Media มากขึ้น 9.2% จากปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงโฆษณา ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงโฆษณาในทีวีหรือป้ายโฆษณาใหญ่ ๆ ที่อยู่ข้างถนน แต่ในปัจจุบันการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และวันนี้เราจะมาแนะนำ 3 ช่องทางการโฆษณาที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากทางโลกออนไลน์ในขณะนี้

ช่องทางที่ 1 Google Ads

Google Ads หรือชื่อเต็มก็คือ Google AdWords เป็นเครื่องมือเพื่อใช้ทำการโฆษณาออนไลน์บนเครือข่ายของ Google เราต้องไม่ลืมว่า Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับหนึ่งของโลก ที่คนไทยกว่า 99% เข้าไปหาข้อมูลต่าง ๆ ขนาดลุงผู้นำเขายังบอกให้ใช้

โดย Google Ads นั้นมีโฆษณาหลายแบบเลย แต่เราจะมาแนะนำที่เห็นกันได้ง่าย ๆ 2 อย่าง ก็คือ

1. Google Search – เป็นการโฆษณาที่ใช้ Keyword หรือ คำค้นหา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยจะแสดงโฆษณาอยู่ในหน้าแรกของ Google จะคล้ายกับการทำ SEO แต่จะเห็นผลเร็วกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการทำ โดยการคิดค่าใช้จ่าย  Google จะคิดเป็น Pay Per Click (PPC) หรือคิดต่อการกดโฆษณา 1 ครั้ง
2. YouTube Ads – โฆษณาในรูปแบบของ Video บน Youtube มีโฆษณาที่หลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือก ทั้งแบบขึ้นเป็น Banner, แบบ Overlay แสดงซ้อนบนวีดีโอหลัก และแบบ In Stream ที่จะมีโฆษณาขึ้นก่อนเริ่มวีดีโอ อะไรประมาณนี้!

ช่องทางที่ 2 Facebook Ads

แน่นอนว่าตัวเลขผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศไทยนั้นไม่ใช่น้อย และการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งานไว้ก็มีมหาศาล Facebook ก็ฉลาดที่จะเอาข้อมูลจัดลำดับความสำคัญในการแสดงโฆษณาให้แต่ละคนเห็น เคยมั้ยล่ะ ว่าถ้าคุณพูดถึงแหล่งท่องเที่ยว อีกไม่กี่นาทีต่อมา ก็จะมีโฆษณาที่พักขึ้นมาให้

Facebook มีวิธีการคัดเลือกให้ และแบบที่เราก็สามารถจัดสรรเองได้ด้วย ว่าอยากให้โฆษณาของเรา เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใด ถือเป็นหนึ่งช่องทางโฆษณาที่เพิ่มยอดขายได้อย่างชัดเจนที่สุดเลยล่ะ

ช่องทางที่ 3 Instagram

การโฆษณา Instagram เป็นวิธีการจ่ายเงินเพื่อโพสต์เนื้อหาที่ได้รับการสนับสนุนบนแพลตฟอร์ม Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางเลือกเพิ่มเติม แน่นอนว่าผู้ใช้งานอาจจะไม่เยอะมากเท่า Facebook แต่มันดูมีผลและผู้คนมีกำลังซื้อมากกว่านะ

เนื่องจาก Instagram เป็นแพลตฟอร์มแบบภาพหรือวีดีโอเท่านั้น (ซึ่งสามารถมาพร้อมกับข้อความ) แน่นอนว่าคุณอาจจะต้องมีวัตถุดิบที่พร้อมในการทำ ไม่ใช่แค่ ข้อความอย่างเดียวเท่านั้น

ในเดือนมีนาคม 2017 มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ Instagram กว่า 120 ล้านคน และกว่า 60% นั้นต้องการข้อมูล ทั้งเบอร์โทร หรืออีเมล เพื่อเข้าถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่โพล่ขึ้นมาบน Instagram มันน่าสนใจมากใช่มั้ยล่ะ ?

จริง ๆ ในปัจจุบันยังมีอีกหลายช่องทางในการทำโฆษณาออนไลน์นะ เรามาเรียนรู้แบบหลัก ๆ กันก่อน แล้วค่อยมาทดลองแบบ Advance กันต่อ และหากธุรกิจของคุณกำลังต้องการที่ปรึกษาด้านการทำ Website แล้วล่ะก็ อย่าลืมนึกถึงพวกเรา Twinsynergy ด้วยล่ะ