ปัจจุบันการซื้อขายสินค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วจิ้ม ๆ ผู้คนในปัจจุบันเองก็เริ่มปรับตัวจนเริ่มจะคุ้นเคยกันแล้ว เห็นได้ชัดจากระบบการจ่ายเงินตามร้านค้าทั้งแบบสะดวกซื้อ และร้านอาหารข้างทาง ก็เริ่มมีให้เราจ่ายเงินด้วยการสแกน QR กันแล้ว แต่ทั้งนี้มันก็ยังต้องผูกกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตอยู่ดี ซึ่งวิธีการนั้นจะสามารถระบุตัวตนของผู้จ่ายเงินได้
แต่สำหรับ Bitcoin นั้นมันเป็นสกุลเงินที่ถูกออกแบบมาในหลักการของการ “ไม่มีศูนย์กลาง” หรือ “Decentralized” มันไม่ถูกผูกติดกับสถาบันการเงินใด ๆ และไม่มีสถาบันการเงินหรือรัฐบาลไหนจะควบคุมได้
BITCOIN เริ่มถูกพูดถึงในไทยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา (ถึงแม้ว่ามันจะมีมานานกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม) ในฐานะของสกุลเงินดิจิทัล ที่จะต้องขุดขึ้นมาด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินจริง ๆ ได้ หรือจะเอาไปใช้ซื้อขาย หรือทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงชำระค่าบริการในหลาย ๆ ประเภทได้ด้วย ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือการ จองโรงแรม และชำระค่าตั๋วเครื่องบิน (บางสายการบินเท่านั้นนะ) และมันกำลังเริ่มจะขยายตัวเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางการชำระเงิน” จริง ๆ แล้วล่ะนะ
Bitcoin คือสกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัล ถูกสร้างขึ้นมาด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีรูปร่าง และไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินบาท มันถูกสร้างขึ้นโดย SATOSHI NAKAMOTO ซึ่งไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย มันเป็นระบบชำระเงินที่อ้างอิงอยู่บนการถอดสมการคณิตศาสตร์ โดยจุดประสงค์ของเขาคือการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากรัฐบาลและธนาคาร และยังสามารถส่งต่อให้กันได้
Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาแบบจำกัด มันมีทั้งหมดจำนวน 21 ล้าน Bitcoin เท่านั้น แต่มันยังสามารถแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ ซึ่งจะเรียกว่า Satoshi
แล้วมันไม่มีรูปร่าง จับต้องไม่ได้ แล้วเราจะอ้างอิงมันได้ไง? เรื่องนี้ตอบไม่ยากเท่าไหร่ หากเรานึกถึงสกุลเงินบาท หรือสกุลเงินดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้พวกเราเชื่อในมูลค่าของมัน ก็คือการมี “ทองคำ” เป็นตัวสนับสนุนและผูกติดกันไว้อยู่ แต่กับ Bitcoin หรือ BTC นี้ มันจะถูกอ้างอิงด้วยสมการคณิตศาสตร์นั่นเอง
ยกตัวอย่างของบิตคอยน์ที่น่ารู้ และควรรู้ไว้เท่านี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวเอาไว้บทความถัดไป ผมจะมาพูดถึง Blockchain ให้ฟัง ไอ้เจ้า Blockchain เนี่ย มันเป็นระบบที่อยู่เบื้องหลังสกุลเงิน Bitcoin นี่แหละ มันคือสิ่งที่ทำให้เจ้า BTC ที่ปลอดภัยมาก ๆ รวมถึงมันยังเป็นสิ่งที่จะมา “เปลี่ยนโลก” ได้เลยด้วยล่ะ
ปล. ถ้าเกิดมันตกหล่นอะไรไปล่ะก็ ขอภัยมา ณ ที่นี้เลยนะ ออกตัวก่อนเลยว่าฉันน่ะ ไม่ใช่นักการเงิน แต่ฉันน่ะอยากแชร์ความรู้กันทุก ๆ คน อยากอธิบายและเล่าสู่กันฟังด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย ๆ เท่านั้นแหละ!!!
📌สนใจติดต่อ📌
💻 twinsynergy.co.th
📱 063-789-9059