7 ประเภทของ Custom Software ที่นิยมสำหรับธุรกิจ

หนึ่งในเรื่องสำคัญของการเดินหน้าธุรกิจยุคดิจิทัล คือ การเลือกใช้งานโปรแกรมที่มีความทันสมัย ให้บริการที่ครอบคลุม พร้อมทำให้งานของคุณก้าวสู่ยุคใหม่ได้อย่างโดดเด่นบนตลาดออนไลน์ (Online Marketing) พร้อมทำให้ทุกงานเกิดความสะดวกสบายและมีความแม่นยำมากที่สุด ดังนั้นกลุ่มผู้สร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ จึงได้พัฒนาซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง (Custom Software)  ที่ถูกทำขึ้นสำหรับผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เป็นการพูดคุยและทำงานร่วมกันระหว่างนักพัฒนาและลูกค้า เพื่อทำให้ Software ออกมาตรงใจและตรงสายของแต่ละธุรกิจมากขึ้น

Custom Software คืออะไร ( https://area51.twinsynergy.co.th/what-is-custom-software-development )

Custom Software หรือซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาสำหรับลูกค้าแบบรายธุรกิจหรือรายบุคคลโดยเฉพาะ เป็นการทำงานของนักพัฒนาที่จะพูดคุยกับทางลูกค้าโดยตรง แล้วทำการปรับแต่งตัวซอฟต์แวร์เพื่อให้ตรงต่อการใช้งานมากที่สุด สำหรับการทำงานนั้นจะเริ่มปรับตั้งแต่พื้นฐานของซอฟต์แวร์และโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อทำให้เข้าต่อธุรกิจของลูกค้าแต่ละรายมากที่สุด โดยราคาของซอฟต์แวร์นั้นยิ่งมีรายละเอียดสูงเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น แต่ผู้ที่ทำ Custom Software ส่วนใหญ่แล้วจะมองว่าแม้ต้องจ่ายราคาแพงแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าต่อผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นอย่างมาก

7 ประเภทสำหรับ Custom Software ที่ได้การยอมรับว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในปัจจุบัน

ถ้าคุณอยู่ในฐานะผู้ประกอบการที่ต้องการนำพาธุรกิจตัวเองให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบนโลกออนไลน์ พร้อมทำทุกส่วนของธุรกิจให้เป็นระบบที่ถูกต้อง มีความพิเศษและไม่เหมือนใคร คุณสามารถเลือกใช้ Custom Software เพื่อทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณกำลังสนใจต่อการสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ ขอแนะนำตัวอย่างของ Custom Software หรือซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง ที่ถูกสั่งทำจากลูกค้ามากที่สุด ดังนี้

1.ระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System : CMS )

ระบบจัดการเนื้อหาหรือ Content Management System (CMS) ถือเป็นที่หนึ่งในระบบยอดนิยมของ Custom Software ที่ได้การตอบรับจากผู้ใช้งานจริงเป็นจำนวนมาก โดยจะมีคุณสมบัติด้านการปรับปรุงเนื้อหาต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ให้มีเมนูที่ใช้งานง่าย ทำให้เห็นภาพของสินค้าที่มีความสวยงามมากขึ้น มีความคมชัด และให้ขั้นตอนการซื้อที่ง่ายมากขึ้น ทั้งยังสามารถพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว มีการตอบสนองของเว็บไซต์ที่เร็วทันใจ ทำให้เห็นเนื้อหาต่าง ๆ ภายในเว็บสอดคล้องกับตัวสินค้าหรือบริการได้อย่างชัดเจน ทั้งยังใช้บริการบนสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรือ iPad ได้อย่างสะดวกทั้งหมด ที่สำคัญคือเนื้อหาภายในจะทำการ Update อยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ธุรกิจออนไลน์ควรต้องมี เมื่อนำมาใช้งานแล้วจะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ดี ช่วยเพิ่มยอดขาย

เมื่อใช้งานจริงแล้วไม่จำเป็นต้องติดต่อนักพัฒนา (Developers)หรือโปรแกรมเมอร์ (Programmers) ให้มาช่วยจัดการ เพราะเพียงแค่ตัวคุณที่เป็นเจ้าของธุรกิจก็สามารถอัพเดทระบบ Content management system (CMS) ได้ด้วยตัวคุณเองอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยอำนวยความสะดวกด้านงานขายและงานบริการ พร้อมการใช้งานที่จะรวมทุก Social Media ของธุรกิจคุณไว้ในหนึ่งเดียว แล้วทำการดูแลรักษาและให้ความปลอดภัย รวมถึงการอัพเดทเรื่องราวต่าง ๆ ของธุรกิจอยู่เสมออีกด้วย ตัวอย่างของระบบ Content management system (CMS) หรือระบบจัดการเนื้อหาที่โดดเด่น คือ  Wordpress มีการใช้งาน CMS ที่ยอดเยี่ยม มีแพลตฟอร์มเข้าไปตกแต่ง ปรับเปลี่ยน และใช้งานได้ง่ายที่สุด กลุ่มของธุรกิจสามารถเข้าไปเพิ่ม Widget ทำการปรับปรุงและทำงานในส่วนต่าง ๆ ของ WordPress เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพงานขายได้อย่างสูงสุด โดยที่เจ้าของเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากแต่อย่างใด

ตัวอย่างผลงานเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วย WordPress  :

The Cliff Lipe : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/the-cliff-lipe/

Crypto Intrend : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/crypto-in-trend/

2.ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management : CRM)

ระบบการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ Customer Relationship Management  (CRM) เป็นระบบจัดการและติดตามข้อมูลของลูกค้า มีแนวโน้มของกลุ่มเป้าหมายและการอ้างอิงเครื่องมือสำหรับเข้าสู่กลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายสูง กลุ่มธุรกิจ Startup มักจะเลือกใช้ CRM เพื่อตอบสนองด้านธุรกิจของตัวเอง เพราะให้การใช้งานที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมาก ตัวระบบจะทำการส่งเสริมและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้าไว้อย่างแน่นแฟ้น ให้ความสัมพันธ์แบบเชิงบวกด้วยการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวธุรกิจและลูกค้า สามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงแคมเปญ โปรโมชั่น การติดต่อผู้ขาย หรือการนัดหมายต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ส่วนแพลตฟอร์มของ Customer Relationship Management (CRM) จะมีการใช้แดชบอร์ด (Dashboard) ในรูปแบบเดียวกันกับเครื่องมือด้านการรายงานผลและการวิเคราะห์ผลต่าง ๆ เพื่อทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถติดตามทุกข้อมูลที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของตนเองได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ถือว่าเป็นนวัตกรรมของโครงสร้างพื้นฐาน ที่สามารถปรับแต่งได้โดยเจ้าของเว็บไซต์เองแบบคล่องตัวที่สุด ทั้งยังเป็น  Salesforce  ที่จะเข้าถึงตัวลูกค้าได้โดยตรง ทำให้ประสิทธิภาพงานขายเป็นไปอย่างดีเยี่ยม การควบคุมสามารถทำได้ทั้งแผนกไอที แผนกการเงิน และแผนกทรัพยากรบุคคล ที่เชื่อมต่อการทำงานกันได้อย่างลงตัว จึงทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะให้ประโยชน์ด้านข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเชิงลึกที่จะถูกตีออกมาเป็นแนวโน้ม เพื่อนำไปปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงธุรกิจแล้วทำการเอาชนะคู่แข่งในระยะยาวได้

ตัวอย่างผลงาน ระบบ Customer Relationship Management : CRM

Crystal Reward Application: https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/crystal-reward/

Spicy Club: https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/spicy-club-on-line-liff/

3.ระบบจัดการธุรกิจแบบอัตโนมัติ (Business Process Automation System)

ระบบจัดการธุรกิจแบบอัตโนมัติ หรือ BUSINESS PROCESS AUTOMATION SYSTEM เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ ที่ยังใช้งานระบบต่าง ๆ ได้ไม่คล่องตัว ซึ่งระบบนี้จะทำให้การสื่อสารระหว่างเจ้าของธุรกิจและลูกค้าให้เป็นไปอย่างมืออาชีพ มีการทำงานของ Work Flow แบบอัตโนมัติที่จะสร้างขั้นตอนต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ แล้วทำให้เจ้าของธุรกิจมือใหม่สามารถเริ่มต้นป้อนข้อมูลแล้วเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ๆ ภายในบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังทำให้ธุรกิจออนไลน์มีความโปร่งใส นอกจากนี้ยังช่วยทำให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากเกินไป เพราะตัวระบบจะลดข้อผิดพลาดในการชำระเงิน, การชำระค่าสินค้า และการอนุมัติงานขาย

พร้อมทำให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด กระบวนการธุรกิจแบบอัตโนมัติจะช่วยทำให้คุณไม่จำเป็นต้องมานั่งจ้องหน้าจออยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าลูกค้าจะซื้อของเวลาไหนและต้องอนุมัติทันทีหรือไม่ เพราะตัวระบบจะทำการประมวลผลแล้วอนุมัติให้แบบอัตโนมัติ จึงถือว่าเป็นหนึ่งในระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งยังควบคุมโครงการต่าง ๆ ของธุรกิจ, จัดการบอร์ด, จัดการเช็คอินแบบอัตโนมัติ และการตั้งค่าทุกอย่างจะถูกทำขึ้นมาแบบรวมศูนย์  ทั้งยังมีข้อมูลอัพเดทความคืบหน้าต่าง ๆ ให้คุณในหนึ่งเดียว จึงถือว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ให้ความยืดหยุ่นและช่วยจัดการระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานขายของคุณได้ดีเยี่ยม

ตัวอย่างผลงาน Custom Software ระบบจัดการธุรกิจแบบอัตโนมัติ

ระบบ Document Tracking : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/document-tracking-b-grimm/

ระบบจัดการคลีนิคเสริมความงาม : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/grand-esta-management-system/

ระบบจัดการสนามฟุตบอล : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/khunsomsri/

4.ระบบออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ (Automated Invoicing System)

ระบบการออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติหรือ AUTOMATED INVOICING SYSTEM จะใช้บน Cloud-Based Solutions เพื่อทำการแบ่งปันข้อมูลของลูกค้าให้กับพนักงานที่รับบิลซื้อสินค้า ช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพในการติดตามผลและจัดการเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับใบแจ้งหนี้ โดยไม่จำเป็นต้องเดินเข้ามาขอลายเซ็นเพื่ออนุมัติ จะให้ประโยชน์ด้านการประเมินผลและประสิทธิภาพของการทำงานที่เมื่อมีการออกบิลของลูกค้าแล้ว สามารถทำใบแจ้งหนี้ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องโยนไป โยนมาให้กับแผนกใดจนกลายเป็นการเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ

ลูกค้าสามารถที่จะชำระเงิน, รับเงิน หรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินได้อย่างรวดเร็ว เพราะระบบจะทำการสร้างใบแจ้งหนี้ที่มีครบทุกข้อมูลให้กับลูกค้าได้ทันที ซึ่งแพลตฟอร์มบนคลาวด์จะทำการดำเนินงานทั้งหมดให้คุณแบบอัตโนมัติ  ส่วนพนักงานที่ออกบิลจะมีหน้าที่เพียงแค่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จึงไม่จำเป็นต้องยุ่งยากแต่อย่างใด ทั้งยังมีคุณลักษณะที่สามารถส่งใบแจ้งหนี้ไปได้ทั่วโลกเลยทีเดียว

5.ระบบข้อมูลบริษัทและลูกค้า (Company-Facing / Customer-Facing Web Portal)

ระบบข้อมูลบริษัทและลูกค้า หรือ COMPANY-FACING / CUSTOMER-FACING WEB PORTALS คือ หนึ่งใน Custom Software ที่ได้การยอมรับว่ายอดเยี่ยมที่สุด เพราะสามารถติดตามข้อมูลของทั้งลูกค้าและพนักงานที่รับข้อมูลไป พร้อมทำการอัพเดตแนวโน้มล่าสุดว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดย Portal ของบริษัทจะทำการกำหนดเป้าหมายเฉพาะให้กับพนักงาน เมื่อพนักงานเข้าสู่ระบบแล้วจะรู้ถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดต่าง ๆ ของบริษัทได้ทันที จะได้ข้อมูลเรื่องความต้องการ, โครงสร้างบริษัท, หลักสูตรการฝึกอบรม และข้อมูลต่าง ๆ ส่วน Portal ของลูกค้าจะมุ่งเน้นให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงส่วนลด, โปรโมชั่น, ข่าวประชาสัมพันธ์ และสินค้าใหม่ ๆ ผ่านทางอีเมล์หรือข้อความต่าง ๆ ที่ลูกค้าระบุไว้

6.ระบบขายสินค้าออนไลน์ (ECOMMERCE SOLUTIONS)

สำหรับธุรกิจที่มีการทำ E-Commerce เพื่อการขายสินค้าออนไลน์ สามารถใช้โซลูชั่นซอฟต์แวร์อีคอมเมิร์ซ มาเป็นตัวช่วย ในการทำให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณโดดเด่นมากขึ้น เพราะโซลูชั่นนี้จะช่วยทำการปรับแต่งหน้าร้านได้อย่างง่ายดาย พร้อมติดตามการชำระเงินและการจัดระเบียบของสินค้าได้ง่ายมากขึ้น คุณจึงขายทุกอย่างได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลใด ๆ โดยแพลตฟอร์มจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยน ปรับแต่ง และใช้งานส่วนต่าง ๆ ได้แบบสมเหตุสมผล

ทั้งยังมีอิสระที่จะปรับเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นและโครงสร้างเดิมของ Template เพื่อทำให้เหมาะสมต่อธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าสินค้าที่กำลังจะมาถึง เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดของการซื้อ-ขายได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจะรวมทุกฟังก์ชันที่เกี่ยวกับ E-Commerce แล้วเชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณได้แบบเนียน ๆ เลยทีเดียว

ตัวอย่างผลงาน E-Commerce :

Shop BrandThink: https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/brandthink-shop/

7.ระบบ BUGTRACKING

ระบบซอฟแวร์ติดตามจุดบกพร่องหรือ Bug Tracking Software เป็นโปรแกรมสุดท้ายที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มของ Custom Software โดยจะสามารถติดตามจุดบกพร่องต่าง ๆ ของเว็บไซต์และธุรกิจออนไลน์ได้อย่างแม่นยำ ใช้งานระบบคราวด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมการติดตามความสนใจของกลุ่มเป้าหมายอย่างใกล้ชิด มีคุณสมบัติของการตรวจสอบข้อบกพร่องปัญหาต่าง ๆ และข้อผิดพลาดของธุรกิจที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรบริษัท

จึงถือว่าเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจเลยก็ว่าได้ โดยโปรแกรมนี้จะรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโลกออนไลน์ให้คุณได้ศึกษาและทำอย่างปลอดภัย มีกระบวนการพัฒนาและจัดการข้อผิดพลาดกับปัญหาแบบล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะสามารถจัดการทุกระบบเกี่ยวกับการซื้อ-ขายไว้ก่อนที่คุณจะออกไปท่องเที่ยวหรือไปทำธุระต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าเว็บไซต์ของคุณจะล่มในช่วงที่มีคนเข้ามาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากอีกด้วย

Custom Software หรือเจ้าซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองจะเป็นตัวช่วยในการทำให้ธุรกิจออนไลน์มีความคล่องตัว จัดการทุกระบบของธุรกิจเพื่อลดข้อผิดพลาด ลดผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้ธุรกิจของคุณต้องเสียเงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการสั่งทำ Custom Software สำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ จึงจะช่วยทำให้การทำงานทุกส่วนของธุรกิจเป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งถ้าคุณสนใจที่จะทำ Custom Software เป็นของตัวเอง สามารถศึกษาได้จากทั้ง 7 ประเภทของ Custom Softwareนี้ เนื่องจากมันคือซอฟต์แวร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด เป็นที่นิยมและมีผู้สั่งทำเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน

บริษัท Twin Synergy ของเราก็คือหนึ่งในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software House) ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกกค้าระดับองค์กรใหญ่ๆจำนวนไม่ได้ในการพัฒนา Custom Software ( ดูตัวผลงาน : https://area51.twinsynergy.co.th/portfolio/ ) เมื่อท่านศึกษาข้อมูลจากหลายๆแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ Custom Software ดีแล้ว อย่าลืมคิดถึง Twin Synergy เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการริเริ่มและสร้างสรรค์ผลงานซอฟต์แวร์ของท่านด้วยนะครับ

ติดต่อเราได้ 24 ชั่วโมง : https://area51.twinsynergy.co.th/contact/